ปี 2023 สื่อนอกบ้าน หรือ OOH จะกลับมาบูมอีกครั้งเหมือนปี 2019

จากผลสำรวจของ PWC รายได้ของสื่อ OOH ทั่วโลก หลังปี 2022 เป็นต้นไป จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น 4% เนื่องจากคนออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านตามปกติ และมีแนวโน้มที่จะมากกว่าช่วงก่อนโควิดด้วย เพราะคนรู้สึกอัดอั้น จนเกิดปรากฎการณ์ เที่ยวล้างแค้น หรือ ช้อบปิ้งล้างแค้น จึงทำให้ปีหน้าหลายแบรนด์เริ่มหันมาใช้สื่อนอกบ้านกันมากขึ้น

สำหรับเทรนด์สื่อ OOH ในปีหน้าจะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

#1 แบรนด์หันมาใช้สื่อ Digital OOH มากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาและจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยปัจจุบัน DOOH ครองส่วนแบ่งตลาด OOH ทั้งหมดที่ 40% และคาดว่าปี 2023 จะเพิ่มเป็น 50%
#2 เทคโนโลยีช่วยทำให้ Ad มีความ Dynamic มากขึ้น โดยแบรนด์สามารถกำหนดให้ AD ปรากฎตามสถานที่ ภูมิอากาศ วันและเวลาได้
ตัวอย่างเช่น Mcdonald’s เปิดแคมเปญ McCafe’s Iced โดยขึ้น Ad ตามอุณภูมิที่กำหนด
#3 ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมยังคงเป็นสิ่งสำคัญของสื่อ OOH ช่น ที่ชินจุกุกับสร้างสรรค์ป้าย 3D แมวยักษ์ จนกลายเป็น Landmark ของแหล่งนั้นทันที หรือแบรนด์ Nike กับ Coach ก็หันมาเล่น 3D billboard ที่ช่วยทำให้เกิดกระแสไวรัลจาก Offline to Online ได้
#4 ผู้บริโภคปัจจุบันไม่ได้ซื้อสินค้าเพียงเพราะคุณสมบัติ แต่ทุกคนซื้อ Story ของแบรนด์ ซึ่งสื่อ OOH เป็นอีกหนึ่งสื่อที่ได้รับความนิยมในการทำ storytelling
#5 กลยุทธ์การตลาดแบบ Ominichanel กำลังเป็นที่นิยม ในยุคนี้ อย่าง Plan B เองก็มีกลยุทธ์ 4O Media ที่มีการทำแคมเปญผ่าน OOH / Online / On Air และ On Ground

จากผลวิจัยสื่อ OOH ช่วยให้คนเข้าคลิกดูแคมเปญใน Online เพิ่มขึ้น 38% ตัวอย่างเช่น
Burger King ทำแคมเปญบนป้าย Time Square แจกโค้ดส่วนลด 65,000 เพียงเปิด Airdrop และสามารถนำโค้ดนี้ไปใช้ใน BK App ได้